คำศัพท์โป๊กเกอร์ที่ควรรู้ในการเล่นโป๊กเกอร์เงินจริง
ในการเ ล่นโป๊กเกอร์เงินจริง จะมีคำศัพท์เฉพาะที่ใช้กันอย่างเป็นทางการและคำศัพท์ที่นักเล่นเรียกกันแบบง่าย ๆ หรือแบบชิล ๆ เพื่อให้เข้าใจตรงกันและสื่อสารได้สะดวกบนโต๊ะเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมสด หรือเกมออนไลน์

คำศัพท์โป๊กเกอร์
1. All-in
การเดิมพันชิปทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ
2. Ante
เงินเดิมพันขั้นต่ำที่ผู้เล่นทุกคนต้องวางก่อนเริ่มแจกไพ่ในแต่ละรอบ
3. Bad Beat
สถานการณ์ที่ผู้เล่นที่ถือไพ่เหนือกว่าแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามที่ได้ไพ่ดีกว่าหลังจากเปิดไพ่กองกลาง
4. Big Blind (BB)
การเดิมพันบังคับที่ผู้เล่นสองคนทางซ้ายของดีลเลอร์ต้องวางเดิมพันเต็มจำนวน
5. Bluff
การวางเดิมพันหรือเกทับด้วยไพ่ที่ไม่ดี เพื่อหลอกให้ฝ่ายตรงข้ามหมอบ
6. Board
ไพ่กองกลางที่เปิดไว้สำหรับผู้เล่นทุกคนใช้ร่วมกัน
7. Button (Dealer Button)
ตำแหน่งที่ทำหน้าที่แจกไพ่ และเป็นตำแหน่งที่เล่นเป็นคนสุดท้ายในรอบเดิมพัน
8. Call
การวางเดิมพันเท่ากับเงินเดิมพันที่ผู้เล่นก่อนหน้าวางไว้
9. Check
การไม่วางเดิมพันในรอบนั้น และปล่อยให้ผู้เล่นคนถัดไปเล่นต่อ
10. Chip
ชิปที่ใช้แทนเงินในการวางเดิมพัน
11. Community Cards
ไพ่กองกลางที่ผู้เล่นทุกคนใช้ร่วมกัน
12. Dead Hand
มือที่ถูกทิ้งไปหรือหมดสิทธิ์เล่นในตานั้น
13. Dealer
ผู้แจกไพ่ในแต่ละรอบ หรือผู้ถือปุ่มดีลเลอร์
14. Draw
การรอไพ่เพิ่มเพื่อให้ได้ไพ่ชุดที่ดีขึ้น
15. Flop
ไพ่กองกลางสามใบแรกที่เปิดหลังจากรอบเดิมพันแรก
16. Fold
การทิ้งไพ่และออกจากตานั้น
17. Fold Equity
โอกาสที่การบลัฟจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามหมอบ
18. Full House
ไพ่ชุดที่ประกอบด้วยตองและคู่
19. Heads-Up
การเล่นระหว่างผู้เล่น 2 คน
20. Hole Cards
ไพ่สองใบที่แจกให้ผู้เล่นแต่ละคนถืออยู่ในมือ
21. Kicker
ไพ่ใบที่สูงสุดที่ใช้ตัดสินผลแพ้ชนะเมื่อไพ่หลักเท่ากัน
22. Limit Poker
เกมโป๊กเกอร์ที่มีการจำกัดจำนวนเงินเดิมพันสูงสุดในแต่ละรอบ
23. Loose Player
ผู้เล่นที่เล่นหลายมือและเล่นแบบเสี่ยงมาก
24. Muck
ไพ่ที่ถูกทิ้งโดยไม่ได้เปิดให้ผู้เล่นคนอื่นเห็น
25. Nut Hand
ไพ่ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในรอบนั้น
26. Offsuit
ไพ่สองใบที่ไม่ใช่ดอกเดียวกัน
27. Open-ended Straight Draw
รอไพ่เรียงจากด้านใดด้านหนึ่ง (เช่น 4-5-6-7 รอ 3 หรือ 8)
28. Outs
ไพ่ที่เหลือในสำรับที่ช่วยให้ผู้เล่นได้ไพ่ดีขึ้น
29. Pocket Pair
ไพ่สองใบในมือที่มีแต้มเหมือนกัน
30. Pot
เงินกองกลางที่ผู้เล่นวางเดิมพัน
31. Pot Odds
อัตราส่วนระหว่างจำนวนเงินที่ต้องวางเดิมพันกับจำนวนเงินในพ็อต
32. Raise
การเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันจากจำนวนที่มีผู้เล่นก่อนวางไว้
33. Rake
ค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งที่เจ้ามือเก็บจากเงินกองกลาง
34. River
ไพ่กองกลางใบที่ 5 และเป็นใบสุดท้ายที่เปิด
35. Set
ตองที่เกิดจากไพ่ในมือ 1 ใบ และไพ่กองกลาง 2 ใบ
36. Showdown
การเปิดไพ่เพื่อวัดผลแพ้ชนะในตอนจบของรอบการเดิมพัน
37. Small Blind (SB)
การเดิมพันบังคับครึ่งหนึ่งของ Big Blind ผู้เล่นที่อยู่ซ้ายมือของดีลเลอร์
38. Straight
ไพ่เรียง 5 ใบแต้มต่อเนื่อง
39. Straight Flush
ไพ่เรียง 5 ใบและดอกเดียวกัน
40. Suited
ไพ่สองใบที่มีดอกเดียวกัน
41. Tell
สัญญาณที่บอกว่าผู้เล่นถือไพ่อะไรหรือมีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน
42. Tilt
การเล่นโป๊กเกอร์ด้วยอารมณ์ที่ไม่สมดุล เช่น โมโหหรือเครียด
43. Turn
ไพ่กองกลางใบที่ 4 ที่เปิดหลังจากรอบเดิมพัน Flop
44. Value Bet
การเดิมพันเพื่อหวังเก็บเงินจากผู้เล่นที่มีไพ่ด้อยกว่า
45. Wheel
ไพ่เรียงที่ต่ำที่สุด A-2-3-4-5
คำศัพท์เพิ่มเติม (ชุดใหญ่)
46. Backdoor Draw
โอกาสที่จะได้ไพ่ดีจากไพ่ Turn และ River เท่านั้น
47. Bad Beat Jackpot
เงินรางวัลพิเศษสำหรับสถานการณ์ที่เกิด Bad Beat ในทัวร์นาเมนต์
48. Bankroll
เงินทุนสำหรับใช้เล่นโป๊กเกอร์
49. Barrel
การเดิมพันต่อเนื่องหลายรอบ
50. Big Slick
ไพ่สองใบ A-K
51. Bubble
ช่วงเวลาที่ผู้เล่นกำลังจะเข้ารอบจ่ายเงินในทัวร์นาเมนต์
52. Burn Card
ไพ่ที่เจ้ามือต้องทิ้งก่อนเปิดไพ่กองกลางในแต่ละรอบเพื่อป้องกันการโกง
53. Cap
จำนวนครั้งสูงสุดของการ Raise ในรอบเดิมพันหนึ่ง
54. Check-Raise
การ Check ในรอบแรกแล้วเกทับ (Raise) เมื่อผู้เล่นคนอื่นวางเดิมพัน
55. Cold Call
การ Call เดิมพันหลังจากมีการ Raise และ Call ก่อนหน้านั้น
56. Community Cards
ไพ่ที่เปิดกลางโต๊ะให้ทุกคนใช้ร่วมกัน
57. Dealer Button
ปุ่มที่บอกตำแหน่งของดีลเลอร์
58. Double Up
การชนะและเพิ่มจำนวนชิปเป็นสองเท่า
59. Equity
โอกาสชนะของไพ่ในมือ
60. Expected Value (EV)
ค่าคาดหวังในการชนะในระยะยาว
61. Float
การ Call เดิมพันเพื่อหลอกฝ่ายตรงข้ามในรอบต่อไป
62. Freeroll
ทัวร์นาเมนต์ที่ไม่ต้องเสียเงินสมัคร
63. Full Ring
เกมที่มีผู้เล่นเต็มโต๊ะ (ปกติ 9-10 คน)
64. Gutshot
รอไพ่สเตรทที่ช่องว่างตรงกลาง
65. Heads-Up
เล่น 2 คน
66. Hero Call
Call เดิมพันที่ดูเสี่ยงแต่คาดว่าผู้เล่นอีกฝ่ายบลัฟ
67. Hot Streak
การเล่นดีติดต่อกันหลายตา
68. Kicker
ไพ่ใบที่สูงที่สุดในมือเมื่อเทียบไพ่ชุดเดียวกัน
69. Late Position
ตำแหน่งเล่นหลังๆ ในรอบเดิมพัน (ใกล้ปุ่มดีลเลอร์)
70. Limp
การ Call ด้วยเงินเดิมพันขั้นต่ำโดยไม่ Raise
71. Loose Player
ผู้เล่นที่เล่นหลายมือและเสี่ยงมาก
72. Muck
การทิ้งไพ่โดยไม่แสดงให้เห็น
73. Nuts
ไพ่ที่ดีที่สุดในสถานการณ์นั้น
74. Open Raise
การ Raise เป็นคนแรกในรอบเดิมพัน
75. Outs
ไพ่ที่จะช่วยให้ชนะได้
76. Overpair
ไพ่คู่ในมือที่สูงกว่าไพ่บนโต๊ะทั้งหมด
77. Pocket Pair
ไพ่สองใบในมือที่เหมือนกัน
78. Pot Odds
อัตราส่วนเงินในพ็อตกับเงินที่ต้อง Call
79. Raise
การเพิ่มเงินเดิมพัน
80. Rake
ค่าธรรมเนียมที่เจ้ามือหักจากพ็อต
81. River
ไพ่ใบสุดท้ายที่เปิดในกองกลาง
82. Runner-Runner
การรอไพ่สองใบติดต่อกันเพื่อให้ได้ไพ่ชุดที่ต้องการ
83. Set
ตองจากไพ่ในมือ 1 ใบ และไพ่กองกลาง 2 ใบ
84. Short Stack
จำนวนชิปน้อยเมื่อเทียบกับบลายด์
85. Slow Play
การเล่นไพ่ดีแบบระมัดระวังเพื่อดึงผู้เล่นอื่นเดิมพันมากขึ้น
86. Small Blind
การเดิมพันครึ่งหนึ่งของ Big Blind
87. Stack
จำนวนชิปที่ผู้เล่นถือ
88. Steal
การ Raise เพื่อขโมยบลายด์
89. Straight
ไพ่เรียงแต้ม
90. Straight Flush
ไพ่เรียงแต้มและดอกเดียวกัน
91. Suited
ไพ่สองใบที่ดอกเดียวกัน
92. Tell
สัญญาณที่บอกถึงความมั่นใจของผู้เล่น
93. Tilt
อารมณ์เสียทำให้เล่นพลาด
94. Top Pair
คู่สูงสุดจากไพ่ในมือและไพ่กองกลาง
95. Trips
ตองที่มีไพ่ในมือ 1 ใบและไพ่กองกลาง 2 ใบ
96. Turn
ไพ่ใบที่ 4 ของกองกลาง
97. Under the Gun (UTG)
ตำแหน่งแรกที่เล่นในรอบแรกหลังบลายด์
98. Value Bet
การเดิมพันเพื่อเก็บเงินจากฝ่ายที่ถือไพ่ด้อยกว่า
99. Walk
เมื่อผู้เล่นคนอื่นหมอบหมดในรอบก่อน ทำให้ผู้เล่นที่ทำ Raise ชนะเงินกองกลางโดยไม่ต้องเปิดไพ่
100. Wheel
ไพ่เรียงต่ำสุด A-2-3-4-5
101. Action
การเล่นหรือการตัดสินใจวางเดิมพันในแต่ละรอบ
102. Backdoor Flush
การรอไพ่ฟลัชสองใบติดต่อกัน (Turn และ River) เพื่อให้ได้ดอกเดียวกันครบ 5 ใบ
103. Backdoor Straight
การรอไพ่สเตรทสองใบติดต่อกัน (Turn และ River) เพื่อเรียงแต้มได้
104. Bad Beat Jackpot
เงินรางวัลพิเศษสำหรับผู้เล่นที่แพ้ในสถานการณ์ที่ถือไพ่เหนือกว่าแบบสุดช็อก
105. Bankroll Management
การบริหารเงินทุนให้เหมาะสมกับการเล่นเพื่อป้องกันการเสียเงินหมดตัว
106. Blocker
ไพ่ในมือที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีไพ่ชุดที่ดีได้ยากลง เช่น ไพ่ Ace ที่คุณถืออาจทำให้คู่ต่อสู้ทำสเตรทหรือฟลัชยากขึ้น
107. Boat
คำเล่นๆ ของ Full House (ตอง + คู่)
108. Brick
ไพ่ที่ไม่ช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาไพ่ในมือ เช่น ไพ่ Turn หรือ River ที่ไม่มีประโยชน์
109. Bubble
สถานการณ์ในทัวร์นาเมนต์ที่ใกล้ถึงรอบจ่ายเงิน (ใครออกตอนนี้จะไม่ได้รับรางวัล)
110. Bullets
Pocket Aces (ไพ่คู่เอซในมือ)
111. Cap Bet
การวางเดิมพันสูงสุดที่อนุญาตในรอบนั้นๆ
112. Cold Deck
สถานการณ์ที่ผู้เล่นได้รับไพ่แย่มากโดยไม่มีโอกาสชนะเลย
113. Connected Cards
ไพ่ที่แต้มเรียงติดกัน เช่น 5 กับ 6 หรือ 9 กับ 10
114. Counterfeit
สถานการณ์ที่ไพ่บนโต๊ะทำให้ไพ่ในมือของผู้เล่นด้อยค่าลง เช่น คุณถือคู่ 10 แต่ไพ่กองกลางออก 2 ใบที่เป็น 10 ทำให้คู่คุณกลายเป็นเพียงคู่ธรรมดาไม่ใช่ตอง
115. Cover
การมีชิปมากกว่าฝ่ายตรงข้ามในการเดิมพันนั้น ๆ
116. Cowboys
Pocket Kings (ไพ่คู่ K)
117. Cutoff (CO)
ตำแหน่งที่อยู่ทางขวาของ Dealer Button หรือเล่นเป็นอันดับก่อนสุดท้าย
118. Donk Bet
การวางเดิมพันแบบไม่ธรรมดา โดยผู้เล่นที่ไม่ได้เป็น Aggressor ในรอบก่อนเป็นฝ่ายเดิมพันก่อน
119. Drawing Dead
สถานการณ์ที่ไม่สามารถชนะได้แม้จะรอไพ่เพิ่มแล้วก็ตาม
120. Equity
โอกาสหรือเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะในสถานการณ์ปัจจุบัน
121. Fish
ผู้เล่นมือใหม่หรือผู้เล่นที่เล่นผิดพลาดบ่อยๆ (ในเชิงลบ)
122. Freeroll
ทัวร์นาเมนต์ที่ไม่ต้องเสียเงินสมัคร
123. Freezeout
ทัวร์นาเมนต์ที่ผู้เล่นตายตัว (ไม่มีรีบาย) เล่นจนเหลือผู้ชนะ
124. Full Ring Game
เกมโป๊กเกอร์ที่มีผู้เล่นเต็มโต๊ะ (9-10 คน)
125. Grinding
การเล่นโป๊กเกอร์แบบระยะยาวเพื่อสะสมกำไรทีละน้อย
126. Gutshot Straight Draw
รอไพ่เรียงที่ช่องว่างกลาง เช่น ไพ่ 5-6-8-9 รอไพ่ 7 เพื่อเรียง
127. Heads-Up Display (HUD)
โปรแกรมช่วยแสดงสถิติผู้เล่นในเกมออนไลน์
128. Heat
ความสนใจหรือความกดดันจากเจ้ามือหรือผู้เล่นอื่นๆ
129. Hero Hand
ไพ่ที่เล่นได้ดีจนได้ผลลัพธ์ดีในการแข่งขัน
130. Implied Odds
อัตราส่วนที่คาดว่าจะได้เมื่อชนะในอนาคต โดยพิจารณาจากเงินที่คาดว่าจะได้รับ
131. In Position (IP)
การเล่นโดยมีข้อได้เปรียบ เพราะเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายในรอบเดิมพัน
132. Isolate
การ Raise เพื่อเล่นกับผู้เล่นคนเดียวและตัดผู้เล่นคนอื่นออกจากรอบ
133. Jam
การ All-in (วางเดิมพันทั้งหมด)
134. Kicker
ไพ่ใบที่สูงที่สุดที่ใช้ตัดสินเมื่อไพ่หลักเท่ากัน
135. Limping
การ Call บลายด์โดยไม่ Raise
136. Lock Up
เมื่อชิปในพ็อตแน่นอนว่าจะเป็นของผู้เล่นคนนั้น (ไม่สามารถถูกแย่งชิงได้)
137. Main Pot
เงินกองกลางหลักที่ผู้เล่นทุกคนวางเดิมพัน
138. Muck
การทิ้งไพ่โดยไม่เปิดให้ผู้เล่นอื่นเห็น
139. Nuts
ไพ่ชุดที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในสถานการณ์นั้น
140. Offsuit
ไพ่สองใบที่ดอกไม่เหมือนกัน
141. Overbet
การเดิมพันที่มากกว่าจำนวนเงินในพ็อต
142. Overlay
สถานการณ์ที่ทัวร์นาเมนต์มีจำนวนเงินรางวัลมากกว่าค่าสมัครสะสม (เจ้ามือขาดทุน)
143. Pocket Rockets
Pocket Aces (ไพ่คู่เอซในมือ)
144. Position
ตำแหน่งในการเล่นที่มีผลต่อการตัดสินใจวางเดิมพัน
145. Protect
การเดิมพันเพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้ามจากการได้ไพ่ดีในรอบต่อไป
146. Quads
ไพ่ 4 ใบแต้มเหมือนกัน (โฟร์การ์ด)
147. Rainbow
ไพ่กองกลางที่ไม่มีดอกเดียวกันเลย
148. Rebuy
การซื้อชิปเพิ่มในทัวร์นาเมนต์หลังจากเสียหมด
149. Runner-Runner
การรอไพ่สองใบติดต่อกัน (Turn และ River) เพื่อได้ไพ่ดีขึ้น
150. Set
ตองที่เกิดจากไพ่ในมือ 1 ใบ และไพ่กองกลาง 2 ใบ
151. Slow Play
การเล่นไพ่ดีแบบระมัดระวังเพื่อดึงฝ่ายตรงข้ามให้ลงเดิมพันมากขึ้น
152. Snap Call
การ Call อย่างรวดเร็วแทบไม่คิด
153. Stack-to-Pot Ratio (SPR)
อัตราส่วนระหว่างจำนวนชิปที่เหลือของผู้เล่นกับขนาดพ็อต
154. Steal
การ Raise เพื่อขโมยบลายด์
155. Straddle
การเดิมพันบังคับเพิ่มเติมก่อนแจกไพ่ โดยผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายของ Big Blind
156. Tell
สัญญาณที่บ่งบอกถึงความมั่นใจหรือไพ่ที่ถืออยู่ของผู้เล่น
157. Three-Bet
การ Raise เป็นครั้งที่ 3 ในรอบเดิมพัน (เช่น Raise > Re-raise > Three-bet)
158. Tilt
สถานะอารมณ์เสีย ทำให้เล่นพลาด
159. Value Bet
การเดิมพันเพื่อเก็บเงินจากผู้เล่นที่ถือไพ่ด้อยกว่า
160. Wheel
ไพ่เรียงต่ำสุด (A-2-3-4-5)